(Update ใหม่) แนะนำแนวทางการอัพสกิล+หนังสือสวรรค์ของสราณรมย์ (credit by Empty)

[BeeBoo]

เขาได้อธิบายไว้อย่างละเอียด ลองศึกษากันดูนะค่ะ

1. สกิลขอพร+หนังสือสวรรค์

ผมจะอธิบายเกี่ยวกับ ขอพร ให้ฟัง นะขอรับ ขอพร คือ สายที่ มีเลือดเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเยอะมาก ภายในระยะเวลาชั่วคราว สมมุติ นายอัพ ขอพร 8 เลือดนายจะสูงขึ้นเป็นเวลา 30 วินาทีนะครับ และ ขอพรเป็น สกิลของขั้น 2 อยู่แถวซ้ายสุด และก่อนไปถึงสกิลขอพร ต้องผ่านสกิล ซ่อนกลิ่น 1 ล่องอากาศ 2 ดอกไม้โปรย 6 และ จะได้อัพ ขอพร อ่านะครับ สำหรับขอพรนั้น ถ้าอัพขั้น 8 จะเพิ่ม HP 199 เปอเซน จาก HP ของเดิม เป็นเวลา 30 วินาที และเมื่อหมดเวลาเลือดจะกลับสู่ระดับปกติ ซึ่งโดยปกติแล้ว สายขอพรนี้ ผมแนะนำให้อัพไว้จะดีสำหรับสาย pk 1-1 อ่านะครับ แล้วใช้ในกิลวอ ไว้รับ Damage สูงๆ เพื่อยืนแลกกัน ก้อดีครับ สามารถพลิกแพลงได้หลายแบบ แต่คนส่วนมากเกิน 50 เปอเซน ที่ไม่นิยมอัพสกิลนี้ เพราะจักรส่วนใหญ่ในเซอเวอร์ หรือคนเล่นจักรจิงๆ (นับแต่คนเล่นเป็นนะ ยกเว้นพวกแรกๆที่อัพปนกันโดยที่ยังไม่มีการวางแผน) แทบทั้งหมดเลยก้อว่าได้ จะนิยมเน้นจักรสายคริน่ะครับ กล่าวก้อคือ เมื่อจักรเลือกที่จะเล่นสายคริอย่างเต็มสูบ ที่นิยมใช้หนังสือสกิลเทพ คือ หน้าแรก ที่มีชื่อว่า ความในใจ นั้น สกิลนี้ จะกำหนดให้เราอัพสกิลไหนถึงจะเพิ่มค่าคริทำให้ค่าคริของเราเพิ่มขึ้น ซึ่งถ้าจักรเลือกที่จะอัพสกิลที่กำหนดไว้ สำหรับ ความในใจ แล้วนั้น สำหรับขั้น 2 ก้อจะไปเลือกอัพ ล่องลอย 8 เพื่อให้เพิ่มคริ 1.6 เปอเซน และ แถวขวา จะอัพ จนถึงสกิล สนับสนุน ขั้น 9 และจะมองข้ามสกิลขอพรไปโดยสิ้นเชิง เพราะอะไรนั้นหรือครับ... เพราะว่า เมื่อเลือกสายคริแล้ว ดันไปอัพสายขอพรอีก ก้อจะเปลืองแต้มประมาณ 14-15 แต้ม โดยที่จะไม่พอไปอัพของขั้นต่อไป ดังนั้น จึงมีคนจำนวนมาก ไม่ได้อัพขอพร แต่ผมจะบอกว่า สกิลนี้ ถ้าคุณเน้น สำหรับการต่อสู้ 1-1 และ กิลวออย่างที่บอก ขอพร เป็นสกิลเทพครับ ภายใน 30 วิ คุณสามารถ ใช้เลือดจำนวนมากไปรับการโจมตีสูงๆ ได้ดีเลยทีเดียว ส่วนจักรตัวผมนั้น เล่นสายสถานะครับ ไม่ได้เน้นสายคริ ผมจึงอัพขอพร มา 8 เช่นเดียวกับที่คุณถาม ตอนนี้ ผมเวลประมาณเกือบ 130 ครับ ตอนผม เลือดร้อน และ + ขอพร ผมจะได้ระดับเลือดอยู่ที่ 5 หมื่น กว่า อ่านะครับ ใช้รับ ฟันตู + สนับสนุน ของจักร เวลสูง และ สกิลกระบี่ที่แรงเป็นหมื่นได้สบาย ไม่ตายครับ สามารถสวนกลับได้ ส่วนมากจะโดนครั้งเดียวไม่ตายอ่านะครับ แต่ก่อนคุณจะอัพ คุณต้อง คิดให้ดีๆ วางแผนสกิลให้รอบคอบก่อน ว่าจะเน้นสายอะไร จะต้องอัพอะไรเท่าไหร่ ลองเข้า google นะ แล้วพิม zx os แล้ว enter ไป แล้ว กดที่เวปบนสุดที่โชว์เลย คุณจะได้ลองอัพสกิลให้ถูกต้องและให้ดี ก่อนจะเล่นอ่านะครับ ทีนี้.... เรามาดูเรื่อง หนังสือ สวรรค์ กัน
สกิล ขอพรนั้น มี หนังสือ สวรรค์ ที่เกี่ยวข้องอยู่ที่ หนังสือสวรรค์ หน้า 3 ประกอบด้วย 3 สกิล ครับ สกิลแรก คือ.. 1.สกิลความหวัง ซึ่ง สกิล นี้ เขียน ว่า ทุกครั้ง ที่สกิลขอพร เพิ่มขึ้น 1 เวล จะเพิ่ม hp 6 % สำหรับ ขั้น 1 นะครับ ถ้าอัพเต็ม จะเป็น 12 % และยิ่งกว่านั้น สกิลได้เขียนตอนท้ายว่า มีโอกาส 5 % ที่จะได้รับพร ผมจะแปลนะครับ คำว่า 5เปอเซน ที่จะรับพรนี้ ผมคิดว่า ประโยคในหนังสือสวรรค์ แปลผิด อย่างแน่นอนครับ เพราะ ถ้าเรามาสายนี้ เป็นไปไม่ได้ครับ ที่เมื่ออัพแล้ว จะมีโอกาส แค่ 5 หรือ 10 เปอเซน เพราะ ผมเคยเจอ กรณีแบบนี้ หลายสกิลครับ ที่แปลแล้วทำให้ความหมายผิด และทำให้ผู้เล่นสับสน เช่น..อะไรน่ะหรอครับ เช่น สกิลหนังสือชื่อ .. คือโลกา ครับ ถ้าขั้น 3 เพิ่มพลังป้องกัน ของสกิล ฝนโปรยปราย อีก 60 เปอเซน ครับ และด้านท้าย ยังเขียนว่า มีโอกาส 5 % ที่จะได้รับค่าป้องกันเพิ่ม ใกล้เคียงกับ สกิล ความหวังนั้นล่ะครับ แต่จิงๆ แล้ว คือโลกา จะเพิ่มป้องกันของฝนโดยเป็นสกิลติดตัว ซึ่งไม่ใช่แค่มีโอกาสจะเพิ่ม แต่เมื่ออัพแล้ว จะมีผลทันที โดย มีผลทุกครั้งที่ใช้ครับ ดังนั้น สกิล ความหวัง ที่เกี่ยวกับขอพร ผมคิดว่า ไม่ใช่โอกาส 5 หรือ 10 เปอเซน แต่ผมคิดว่าเมื่ออัพแล้ว สามารถมีผลได้ทันทีเช่นกัน ผมจะบอกว่า ถ้าคุณคิดจะมา สายขอพรแล้ว ถ้าอยากเลือดเยอะจนเวอร์ ผมอาจแนะนำให้คุณอัพสกิลนี้ด้วยก้อได้ แต่ เวลาคุณสู้ เมื่อคุณกดสกิลแล้ว คุณเปลืองยาหน่อยนะ กว่าจะปั๊มจนเต็ม เพื่อพร้อมที่จะต่อสู้ เอ่อ ไอที่บอกว่า ขั้น 2 เพิ่ม 12เปอ เมื่อคุณอัพ ขอพร 8 มันเพิ่ม 199 เปอเซน ใช่มั้ยครับ คุณเอา 12(ที่กำหนดในหนังสือ) คูณ ด้วย 8 (ขั้นที่อัพ) คุณจะได้ เลือดเพิ่มเป็นจำนวนทั้งสิ้น 96 เปอเซนครับ เมื่อรวมกับ 199 เปอเซน แล้ว เมื่อคุณใช้ขอพร ขั้น 8 เลือดคุณจะเพิ่ม 30วิ ในจำนวน 295 เปอเซน นะครับ ส่วนแต้ม ใน หนังสือสวรรค์ เมื่อเวล 150 คุณ จะได้ รวม 48 แต้มอ่านะครับ ลองคำนวนดูดีๆ ทีนี้ เรามาดู สกิลในหนังสือสวรรค์เกี่ยวกับขอพร สกิลที่ 2 กัน 2.สกิล รักลวง อยู่ หน้า 3 เหมือนกัน สกิลนี้ ถ้าอัพ ขั้น 2 จะเพิ่มสกิล...หลายสกิลนะ แต่รวมทั้งขอพรด้วย จะเพิ่ม ระยะเวลา แสดงผมเพิ่มขึ้นอีก 20เปอเซน คือถ้าคุณ ขอพร ใช้ได้ 30 วิ คุณอัพนี่ 2 คุณจะได้ เพิ่ม 20เปอเซน ของ 30 วิ นั้นก้อคือ 6 วิ เอามา บวกกับ 30 นั้นก้อคือ ขอพรคุณ จะมีระยะเวลาแสดงผลได้ นานกว่าปกติคือ จะเป็น 36 วิครับ เอ่อ แนะนำอะไรอย่าง ถ้าคุณอัพสกิลขอพรจิงๆ คุณควรอัพสกิล สงบ ไปด้วยครับ ควรอัพ สงบ 7 เพราะจะ ลบคูลดาว ของขอพรได้ ส่วนหนังสือ รักลวงอันนี้นั้น จะเพิ่ม คุณสมบัติที่เขียนว่า สงบ จะสามารถ ต้านทานหลับได้ 8 วิ (ถ้าขั้น2) คือง่ายๆ ว่า เมื่อใช้สงบ คุณจะต้านหลับได้ 100 เปอเซน โดยไม่สนจัยการต้านทานสถานะเลย อันนี้ก้อดีไปอย่าง ค่อนข้าง มีประโยชน์สูงสำหรับ สกิลรักลวงนี้ ผมว่าคุ้ม และ... สกิลสุดท้าย ที่เกี่ยวกับ ขอพร สกิลที่ 3 คือ.. 3. จงรัก คือถัดจาก รักลวง นั้นล่ะ สกิลนี้ จะบอกว่า สามารถ ใช้ได้ เพอเฟคมาก สำหรับ คนที่มาสาย สงบ 8 และ ประกอบด้วย หนังสือหน้า2 เสียงฟ้า คือ ลบคูลดาวของ สกิล อมตะเวล 135 คือ เมื่ออัพ สกิลนี้ จะสามารถลดคูลดาว ของสกิล ที่มันกำหนดไว้ในหนังสือนั้นแหระ ทำให้รอบเร็วขึ้น ใช้ได้บ่อยขึ้น ถ้าทำตามที่บอก สงบขั้น 8 จากคูลดาว 60 วิ จะเหลือประมาณ 45 วิ ก้อคือ จะใช้ อมตะได้เกือบตลอดเวลานั้นเอง เอาล่ะๆ มาเข้าเรื่องของเราต่อ.. สกิล จงรัก นั้น เมื่อขั้น 3 นะ จะลดคูลดาว ของสกิลประเภทที่มันกำหนดนั้นแหระ 24 เปอเซน ถ้าขั้น 1 ก้อ 8เปอเซน ก้อ ง่ายๆ เลย สมมุติ ขอพร มันคูลดาว 180 วิ คือ 3 นาที ใช่ป่ะ ก้อ 24 เปอเซน ของ 180 คือ 43.2 วิ เอาเป็น 44 วิ แล้วกัน เอาไป ลบ 180 จะได้ 137 คือพูดง่ายๆ ขอพร แทนที่จะ 180 วิ ใช้ได้อีกครั้ง แต่กลายเป็ย 137 วิ ใช้ได้อีกครั้งนั้นเอง แต่อย่าลืมนะ ถ้ามี สงบขั้น 7 หรือ 8 แล้ว ไอ 137 วิ อะไรนั้น จะไร้ผลทันที เพราะ จงรัก ได้มีผลกะ สกิล สงบ ด้วย ดังนั้น เมื่อ สงบสามารถ ลบ คูลดาวได้แล้ว เรื่อง ขอพร 137 วิ ไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะ เอา สกิล สงบ เป็นหลักแล้ว............
ผมคิดว่า ผมเป็นคนที่อธิบายอะไร ละเอียดนะ ถ้าคุณไม่ขี้เกียจอ่าน บทความที่ผมอธิบาย ผมคิดว่า คุณจะรู้อะไร ได้มากมายเลยทีเดียว ผมคิดว่า อธิบาย แค่นี้ เพียงพอ แล้วล่ะครับ ผมขอตัวครับ โชคดี งับ ^^

[BeeBoo]

ขั้น 4 ของจักร ไม่ค่อยจะดีเท่าที่ควรครับ ต้องรอขั้น 5 แล้วล่ะ ถึงจะ เวิคกว่าเดิม อธิบายคือขั้น 4 ไม่มีสกิลอะไรที่ถือว่าเด่นเลย
เพราะแต่ล่ะสกิลของขั้น 4 มี จุดอ่อนของมันเอง ยกเว้น ลืมกังวลนะ สำหรับสายคริ สกิลนี้ถือว่าแหล่มพอสมควร แต่เป็นสกิลติดตัวไม่สามารถนำมาใช้ได้ ...ขั้น 4 สกิล แถวซ้าย ไม่ต้องดู ถ้าเวลสูง ไม่ค่อยเวิค ดู แถวกลางกัน เงาหยก ก้อม๊ายเท่าไหร่อ่ะ พูดแค่นี้แหระกานคิเกียจเข้าลึก เด๋วยาว คลื่นพริ้วไหว เป็นสกิลล่อลวงที่ดีในระดับหนึ่ง เพราะโจมตีไกลและโอกาสลดความเร็วเป้าหมาย แต่จุดอ่อนคือ ไม่มีสกิลหนังสือสวรรค์ส่งเสริมเลย หลังๆ คงใช้กะพวกเวลสูงด้วยกัน ไม่ค่อยติด แค่ 175 หน่วย แดนใต้ เป็นสกิลที่โจมตีต่อเนื่องได้ดีพอสมควร แต่จุดอ่อนใหญ่คือ มีพลังโจมตีที่ถือว่าเบา ยิ่งในกิลวอ ใช้ไม่ได้ค่อยได้ เพราะมีการปั๊มยาได้ ต่อไป เมฆลับ สำหรับสกิลนี้มีจักรจำนวนมากอัพเป็นทางผ่านเพื่อไปอัพสกิลลืมกังวล แต่ถ้าสายสถานะล้วน จะคิดอัพเต็มก้อได้นะ เมฆลับอ่ะ ข้อดีคือ ลดต้านทานตามระดับที่อัพ ที่มันกำหนดไว้และร่ายแค่ 1 วิ ใช้คอมโบกะสกิลสถานะได้ ส่วนลืมกังวลนั้น เป็นท่าเทพของสายคริล้วนอยู่แล้วล่ะ เพราะอัพเต็มจะเพิ่มคริ 4เปอ ซึ่งถือว่าเยอะเลยทีเดียว และสกิลสุดท้ายคือ ลืมรัก สกิลนี้สำหรับสายสถานะ หรือสายกิลวอที่สามารถลดต้านทานสถานะของคู่ต่อสู้รอบตัวได้ ถ้าจะให้เข้าลึกกว่านั้นคือ มีลักษณะคล้ายบาเรีย ถ้าอยู่ในรัศมีจะโดนลดต้านทานสถานะทุกอย่างคิดเป็นเปอเซน จะลด ประมาณ 7วิ แล้วมีช่องว่างสกิลประมาณ 3วิ แล้วตามด้วย ลดอีก 7วิ แล้วช่องว่าง 3วิ แบบนี้ สลับกันไป (ช่องว่างคือช่วงเวลาที่ต้านทานไม่ถูกลบ) ผมอธิบายแค่นี้ก้อถือว่าเข้าเนื้อหาละเอียดพอสมควรแล้วล่ะ ขอให้โชคดี ไปก่อนนะครับ

[BeeBoo]

ฟันตู เป็น สกิลเดี่ยว ที่แรงที่สุดนะครับ ถ้าอัพเต็ม และ หนังสือสวรรค์ +โศกเศร้า แต่ ที่แรง ใช่ว่าจะดีที่สุดนะครับ
อธิบายก้อคือว่า บางสกิลอาจแรงไม่เท่าฟันตู แต่มีลักษณะโจมตีต่อเนื่องหรือติดสถานะ ที่ใช้แล้วถือว่าดี เช่น.. แดนใต้ ถึงแรงไม่เท่าฟันตู แต่มีการโจมตี 4 ครั้ง ต่อเนื่อง .. สกิลลมพัดพาหิมะโปรยปราย (เป็นท่าท้ายสุด) ก้อโจมตี 4 ครั้ง เช่นเดียวกัน และ ติดสถานะล่อลวงด้วย มีความแรงพอสมควร แต่จะบอกว่า ฟันตูเป็นสกิลที่คุ้มนะครับ ควรอัพ ไม่ 6 ก้อ 9 (6 คือเป็นทางผ่านไปสงบ)และถ้าคิดจะอัพฟันตูให้สามารถฟันแรง ก้อควรอัพหนังสือสวรรค์ โศกเศร้าควบคู่ไปด้วย และส่วนใหญ่แล้ว จักร จะใช้ สกิล ฟันตู คู่กับสกิล สนับสนุน ซึ้งมีพลังโจมตีแรงเวอร์ในการโจมตีครั้งแรก และจักรควรอัพท่าสนับสนุนให้เต็มอยู่แล้ว แต่ถ้าจะให้แรงเวอร์ๆๆๆ เข้าไปอีก ผมแนะนำให้ นอกจากฟันตู 9 โศกเศร้า 2 ให้อัพ สนับสนุน 9 และ หนังสือ รักแท้ อีก 2 เมื่อเวลาต่อสู้ ใช้สนับสนุน แล้วตามด้วย ฟันตู จะแรงเวอร์ทีเดียวครับ ผมไปล่ะครับ ขอให้ถ่องแท้ในรสพระธรรมนะงับ อิๆๆ

ลืมบอกไป จุดเด่นของ ฟันตู คือ เป็นสกิลที่สามารถโจมตีเป็นหลักและ mix กับสกิลอื่นได้ดี เพราะมี คูลดาวที่น้อยมาก คือ 2 วินาที แต่ถ้า อยากให้เทพไปกว่านั้น ก้อจะมี หนังสือสวรรค์ สกิล ไร้ใจ ซึ่งถ้าอัพ 2 ฟันตูจะมีคูลดาว แค่ วินาทีนิดๆ แต่ถ้า + ยันคุ้มไร้ใจ ฟันตู จะมีคูลดาวไม่ถึงวินาทีเลยทีเดียว ... (แถบจะใช้ได้ตลอดและต่อเนื่อง)...

[BeeBoo]

ผม จะ บอก ว่า...
ดีกันคนล่ะแบบนะครับ ถ้าจะเข้าเนื้อหาลึก และโดยรวมแล้วผมจะบอกว่า สกิลอ่อนโยนจะดีกว่านะครับ
เหตุผลน่ะหรอ ฟังได้เลย เยอะ.. (แต่ควรอัพเก็บไว้ 2สกิลเลย เพราะประเทพการใช้ต่างกัน)
สกิลอ่อนโยน ไม่สามารถสร้างความเสียหายได้ เป็นสถานะล่อลวงล้วน เช่นเดียวกับคลื่นพริ้วไหว เรามาดูความแตกต่างกัน
อ่อนโยน สามารถทำการติดสถานะได้ เป็นกลุ่ม ไม่จำกัดจำนวน ระยะการโจมตีเป็นวงกลุ่มรอบตัวเอง สามารถใช้เปิดเป็นสกิลแรกในการต่อสู้ได้เสมอเวลาดวล แล้วตามด้วยสกิลหลัก ซึ่งใช้ได้ 2 สกิลต่อเนื่อง และที่ผมจะบอกว่า อ่อนโยนดียังไงนั้น อ่อนโยน สามารถ..อัพหนังสือสวรรค์เสริมการติดสถานะ คือเพิ่มค่าการติดสถานะได้ ถ้า คุณอัพ อ่อนโยน 8 (โดยไม่มีสกิลในเครื่องเวทเสริมนะ ถ้ามีจะมากกว่าหน่อย) และอัพหนังสือสวรรค์ เสน่ห์หา 4 (ในแพทปัจจุบัน ก่อนหน้านี้ ได้ 3) คุณจะได้ สถานะล่อลวง 209 หน่วย และสกิลนี้ จะมีคูลดาวแค่ 12 วินาที สามารถใช้ได้ต่อเนื่องเมื่อคูลดาวเสร็จ เด๋วผมอธิบายต่อ เรามาดู คลื่นพริ้มไหวกัน
คลื่นพริ้วไหว ข้อดีคือ ระยะการโจมตี ซึ่งสามารถโจมตีได้ในระยะ 18 ช่อง ซึ่งก่อนการ pk เราสามารถใช้แสงล่องทิ้งระยะไว้ก่อนได้เลย และเมื่อระยะไกลพอสมควร ใช้คลื่นพริ้มไหวไป ให้คู่ต่อสู้ติดสถานะ และค่อยเข้าปะทะได้ จะดี แต่เรามาดูข้อเสียกัน
ข้อเสียคลื่นพริ้มไหวนั้น
1.คูลดาว 180 วินาที คือ 3 นาที (หนังสือเสียงฟ้า ขั้น 2 สกิล สงบ ลบคูลดาวได้)
2.สามารถทำสถานะได้ 1 ตัวละคร
3.ไม่มีหนังสือสวรรค์ แม้แต่สกิลเดียว ที่มาส่งเสริมสกิลนี้เลย (เรื่องค่าสถานะ และ เวลา)
นั่นคือ ข้อเสียคร่าวๆ คราวนี้ เราจะลงลึกกัน..
คลื่นพริ้วไหวนั้นอัพ ขั้น 8 มีค่าการติดสถานะ 175 หน่วย ไม่สามารถเพิ่มได้เลย (อาจเพิ่มนิดหน่อยถ้า ได้สกิลเสริมจากเครื่องเวท) แต่ไม่ค่อยมีอ่ะ ที่จะสุ่มได้สกิลนี้ (หินอักษรผู้บุกเบิก) ที่ได้ค่าสถานะ แค่นี้ อาจใช้ได้ในช่วงแรก แต่ถ้าคู่ต่อสู้มีระดับที่สูง++ ทั้งสกิล ทั้งของ ทั้งเครื่องเวทท์ +ต้านทานสถานะเยอะ จะไม่สามารถใช้ได้ เนื่องจากไม่สามารถติดสถานะได้และถ้าคู่ต่อสู้มีอมตะ จะเป็นการใช้สกิลฟรีๆ โดยไม่ส่งผลอะไรเลย และ + คูลดาว นานมาก และถ้าเอาไปใช้กับมอนเตอร์ อันนี้ก้อรู้ดีอยู่ว่าไม่ติดและไม่มีผลอยู่แล้ว พูดถึงการต่อสู้ต่อดีกว่า ซึ่ง อ่อนโยนนั้น สามารถเพิ่มค่าความสามารถการติดสถานะล่อลวงได้สูงสุดถึง เกือบ 250 เลยทีเดียว บางคนคิดว่า บ้าป่ะ ถึงหรอ 250 1. อัพอ่อนโยนขั้น 8 2.มีสกิลเสริมจากเครื่องเวท อีก1 3.อัพหนังสือเสน่ห์หา 4 3.ใส่ยันคุ้ม เสน่ห์หา + 1 เมื่อคำนวนกันแล้วคือ 9 x 10 และ บวกด้วย 15x 150 เท่าไหร่แล้วก้อไม่รู้ จะได้ประมาณ 250 นั้นคือ 9 คือ อ่อนโยน 8 + สกิลเสริม 1 10 คือ 1เลเวลของอ่อนโยน เพิ่ม 2 เราอัพหนังสือ 4 + ยันคุ้ม 1 จะได้เท่ากับ 10 หน่วย เอามาคูณกับ 9 มะกี้ และ ไปบวกกับค่าการต่อสถานะล่อลวงขั้น 9 ผมไจไม่ได้ว่าเท่าไหร่นะ แต่ขั้น 8 = 145 ก้อจะได้ประมาณ 250 นั่นล่ะ และ + ทั้งคูลดาว แค่ ประมาณ10-12 วิ สามารถใช้ได้เป็นระยะ ๆ และ คูลดาวของอ่อนโยน ยังมีหนังสือสวรรค์บางสกิล สามารถลดเวลาคูลดาวได้อีก
แต่ท้ายสุดนี้ ผมจะบอกว่า ควรอัพ 2สกิลก้อ จะ ดี การใช้นะ จะบอกว่า อันดับแรก มีแสงล่องลอยเวลสูงไว้ พอเริ่มสู้ ให้วิ่งทิ้งระยะ เกิน 18 ช่องนั้นล่ะ คือไกล อ่ะ แล้ว ใส่สกิลนี้ไป ถึงติดหรือไม่ติด ก้อไม่เกี่ยวแล้ว แล้วเราก้อวิ่งเข้าปะทะตามด้วยอ่อนโยนต่อเนื่องเลย ถ้ากรณีไม่ติดนะ เพราะล่อลวง จะติดซ้อนกัน 2 ครั้งไมได้ มันจะนับ ของสกิลแรกเสมอ แต่ถ้า ไม่ติด และคู่ต่อสู้ มีสถานะตอบโต้เราล่ะ เช่น เราวิ่งออกมา 18 ช่อง ใช้สกิลไป แต่ไม่ติด เจอพระ พระหลับมาแต่ไกลเลย เราก้ออาจติดหลับจนตาย (แต่หลังๆ ใช้คู่กะอมตะ 8วิได้) ผม..คงลงรายละเอียดลึกไปแระ แต่พิมไปเล่นๆ ว่างๆ เอาล่ะ ข้อเสียหลักของคลื่นไหวคือ เรื่องหนังสือสวรรค์นั้นล่ะ ที่ไม่มีเสริมเลย ส่วนอ่อนโยน นอกจากจะ 200 + หน่วย แล้ว ยังสามารถ ใช้คู่กะ สกิล ลืมรัก ซึ่ง เวล 6 สามารถ ลดต้านสถานะทุกอย่างได้ 18 เปอเซน ในระยะโดยรอบ คู่กะอ่อนโยนจะสามารถทำสถานะได้สูงเลยทีเดียว และคูลดาวไม่นาน ระยะเวลาจะสูงพอจะซ้อนด้วยสถานะอื่นได้ และสามารถพลิกแพลงได้ในการใช้กิลวอ เช่น ถ้าอัพฝนโปรยปราย 8 + สกิลเสริมเครื่องเวทก้อจะดี จะได้ ป้องกัน 1955 ประมาณนั้น วิ่งเข้ากลางวง แล้ว อ่อนโยน ก้อจะต่อสถานะตามๆ กันไป แต่ถ้า เวลสูง สามารถ ใช้อ่อนโยนคู่กับอมตะ จะดีเลยทีเดียว และ..อย่าลืมนะ ในการต่อสู้ อ่อนโยนจะเป็นสกิลฟรีเสมอ คือ สมมุติดวล นับ 3 2 1 เรากดอ่อนโยนรัวๆ ไว้เลย แล้วตามด้วยสกิลหลัก แม้คู่ต่อสู้สวนมากสกิลไรก้อตาม แต่เราจะได้ 2 สกิล คือ อ่อนโยน ฟรีๆ และ สกิลหลัก ส่วนอ่อนโยนจะติดไม่ติด ก้อฟรีไปแล้วอ่ะ ยังไงก้อกำไร ส่วนแต่ล่ะคน จะใช้อ่อนโยนพลิกแพลงได้ ก้อหลายแบบ หลายสไตล์ ต้องลองไปดูๆ แล้วกัน ผมก้อพิมมายาวซะอย่างงั้น เอาเป็นว่าคัยอ่านก้อ อ่าน ไม่อ่านผมก้อไม่ซีเรียส อะไร เพราะถือว่าพิมเล่น อิๆ ผมไปก่อนล่ะกัน แต่ถ้า คนที่เลือกจะอัพอย่างเดียว คงต้อง คลื่นพริ้วล่ะมั้ง เพราะเป็นทางผ่านของแดนใตให้เอาไปใช้เล่นด้วย ทำดาเมจได้ต่อเนื่อง แต่ผมว่า อ่อนโยนอัพไว้ก้อได้... 2 อย่างไปเลย ฟันธง คำนวนสกิลให้พอดี ก้อจะ เวิคคค

[BeeBoo]

ถ้าจำแนกตามประเภทการใช้ จะมี การอัพสกิลได้ 3 อย่างนะขอรับ
1.เน้น pk ต่อสู้ 1-1
2.เน้นกิลวอ
3.เน้นเก็บเลเวลรวดเร็ว
สกิลแต่ล่ะสายจะมีความโดดเด่นแตกต่างกันไป แล้วแต่ประเภทการใช้
ส่วนตัวละครของผมอัพเพื่อ pk 1-1 ครับ จะเด่นกว่าสายอื่น แต่เน้นสถานะและสเตปการต่อสู้และวิธีการแก้ทางซะส่วนใหญ่ ไม่ใช่สายคริ + โจมตีสูง และลบคูลดาว เหมือนสายกิลวอ
ถ้าจะให้ลงรายละเอียดและถามลึกกว่านี้ ซิบมาคุยเล่นกะผมก้อได้งับ ยินดีเสมอ ผมคุยกะทุกคนแม้เวลน้อย เยอะ แลกเปลี่ยน แชร์ความรู้ ความสามารถกันก้อได้ครับ ในเกม ผม ใช้ชื่อ Empty นะ ออนบางเวลาอ่ะ แล้วแต่อารม อิๆ
ผมไปก่อนแระกานงับ แต่ไม่ว่าอัพสกิลแบบไหน ให้อ่าน.. ก่อนจะอัพ แต่ห้าม...อัพหลายสกิลปนกัน อย่างล่ะนิด อย่างล่ะหน่อย จนมีเยอะจำนวน และความสามารถสกิล ลดลงไป ก้อไม่เวิคครับ ให้เน้นสกิลใด สกิลหนึ่ง ที่คิดว่าเหมาะกับการเล่นของเราและอ่านคำอธิบายให้ดีๆ ว่าทำอะไรได้ มีประโยชน์แค่ไหน ให้สามารถใช้ได้สอดคล้องกะสกิลที่เราอัพด้วย เน้นเป็นสกิลๆ ไป อย่าปนมั่ว และควรคำนวนแต้มสกิลให้พอดีกับขั้นต่อไปด้วย เพราะขั้นต่อไป ต้องใช้ของขั้นปัจจุบัน 24 แต้ม ถึงจะอัพขั้นต่อไปสกิลแรกได้ และที่ สำคัญที่สุด ต้องดูหนังสือสวรรค์ควบคู่กับด้วย ให้มันสมดุลและมีผลกระทบกับสกิลที่เราอัพเสมอ (ถึงอัพสกิลเทพ แต่ไม่สัมพันธ์กับสกิลหนังสือสวรรค์ ก้อไม่เก่งเลย) กำ ผมเผลอพูดยาวมาเฉยเลย เอาเป็นว่า ผมชี้ช่องทาง และเพิ่มเติมความรู้ให้แล้วกันนะครับ เพราะสิ่งที่ผมให้ มันสามารถคิดและพลิกแพลงได้ แต่ถ้าผมบอก ว่าต้อง อัพ โน้น เท่านี้ นั้น เท่านี้ ถึงคนที่อัพตาม ก้อไม่เก่งนะงับ เก่งแต่ตัวละคร แต่การใช้จะแตกต่าง เพราะ การอัพสกิล การใช้สกิล เรียกว่าเป็นคนล่ะส่วนกันเลยก้อว่าได้ เพราะเวลาสู้จิงแล้ว สกิลที่เราอัพอาจจะใช้ไม่ได้ อาจจะต้องมีการแก้ทางกันกะทันหัน ขอให้ศึกษาสกิลให้เข้าใจ ก่อนที่จะอัพ และ รู้ถึงความสามารถของสกิลแต่ละอย่าง อย่างจิงๆ แล้วจะพลิกแพลงได้ มากมายนัก

[BeeBoo]

จัดไป วิธีชนะ ดาบ อัม + อมตะ
ท่านควรมีแสงล่องลอยก่อนนะ สกิลนี้ แนะนำให้อัพอย่างมากมาย ไม่ว่าเวลไร แต่เวลหลังๆ มีประโยชน์เพื่อเป็นสเตปในการต่อสู้แน่ เข้าไว้ ออกไว ทำดาเมจได้สูง ในระยะเวลาอันสั้น และลดการปะทะในบางกรณี
และ สกิล สนับสนุน นะ กัน อัม ได้ 100 เปอเซน (ตอนติดอัมอยู่ก้อใช้ได้ พอหลุดอัม ก้อวิ่งได้ต่อ) เพราะอัม ห้ามแต่การเคลื่อนไหว ไม่ห้ามการใช้สกิลเหมือนล่อลวง
ถ้ากดดวล กะดาบ ถ้าเกรงว่าดาบจะใช้อมตะ หรือไม่ใช้ (ไม่สามารถรู้ได้) แต่ที่กันไวก้อคือ เมื่อท้าไป หรือเขาท้ามา ก่อนเริ่ม ใช้แสงล่อลอยไว้เสมอเลย ในการสู้อ่ะ เพราะมีสงบ ลบคูลดาว ใช้ได้อีกรอบ (สงบก้อสมควรอัพมาก) และก่อนเริ่มมันจะ นับ 3 2 1 ให้ทิ้งระยะการสู้ไว้ก่อนเลย อย่างน้อย 10-15 ช่อง (เอาเป็นระยะพอประมาณแล้วกัน) เพราะดาบโจมตี 4 ช่อง (แต่สกิลบางสกิล เช่น ชลอการเคลื่อนไหวของดาบ ถ้าดาบเค้าอัพนะ) มันก้ออาจมากกว่า 4 ช่อง แต่ควรทิ้งระยะไว้แล้วกัน พอทิ้งระยะ ดาบจะตกจัย กลัวเราวิ่ง เค้าจะไม่อมตะทันที เค้าจะรอให้เราเข้ามาทำท่าว่าจะโจมตี เค้าอาจจะใช้อมตะตอนนั้น หรือบางคนใช้อมตะก่อนที่เราจะวิ่ง เราแก้โดยการวิ่งก่อนเลย (อมตะ 18 วิ) วิ่งให้หมดเวลา 18 วินั่นล่ะ แล้วค่อย เข้าปะทะ แต่สมมุติ ดาบเพิ่มได้อมตะ แค่ เวล 1 2 อะไรพวกนี้ ถ้าไม่อยากวิ่ง จักรสายสถานะ สามารถใส่สกิลสถานะสวนไปได้เลย ตามจำนวนที่มันกันได้ เช่น อมตะเวล 1 กันสถานะ 2 สถานะ หมายความว่า สถานะที่ 3 จะติดของเรา แม้ดาบจะอยู่ใน เวลาอมตะ (ติดสถานะ แต่เราไม่สามารถสร้างความเสียหายดาบได้) เอาเป็นว่า ท่านวิ่งก่อน ไม่มีคัยว่าหรอก ว่าท่านหนี เพราะถ้าดาบ อมตะมา เราไปยืนทำซากอะไรให้มันโจมตี 18 วิ... 18 วิก้อทำให้เราตายได้ไม่ยาก ก้อวิ่ง จนอมตะหมด แต่ถ้า เผลอติดอัมพาตซะก่อน ให้ใช้สนับสนุนให้หลุด และวิ่งต่อ แล้วค่อยเข้าปะทะ หลังจากสกิลอมตะของดาบหมด (เวลาคลิกล๊อคเป้า สามารถดู ICON สกิลของคู่ต่อสู้ได้) สกิลอมตะของดาบจะเป็น คล้ายพระพุทธรูปสีฟ้า นั่งสมาธิ เมื่อเข้าสวนตอนดาบหมดอมตะ ถ้าจักรสายสถานะ ให้เปิดด้วยสถานะก่อนเสมอ แต่ดาบส่วนมาก ถ้าหมดอมตะ เค้าจะเปิดด้วย สกิลเครื่องเวทที่ทำให้เราติดสถานะล่อลวงได้ หรือไม่ก้อท่าโจมตีที่แรงที่สุดของเค้า แนะนำให้กันล่อลวงไว้ 190 จะดีเลย เพราะสกิลเครืองเวทดาบ ทำสถานะล่อลวง 190 (ถ้าสกิลขั้น1นะ) เห้ย แต่ผมไม่แน่จัยว่าขั้น 1 ล่อลวง 190 หรือ 195 เอาเปนว่าประมาณนี้ ส่วนมากจะขั้น 1 ถ้าขั้น 2 สถานะ จะ 225 ก้อว่ากันไป แต่มีดาบส่วนน้อยนะ
....................ที่สำคัญที่สุดสำหรับการต่อสู้ คือ กดดูสกิล ดูทุกอย่างที่มีผลกระทบกับการต่อสู้ของเราก่อนเสมอ และสมควรดูคู่ต่อสู้ทุกตัวละครที่จะมาสู้กะเรา ถ้าต้องการชนะจิงๆนะ และควรรู้ถึงสกิลของคู่ต่อสู้ ว่าสกิลนี้สามารถสร้างความเสียหายยังไง แรงแค่ไหน ติดสถานะอะไร โจมตีในระยะเท่าไหร่ ถ้ารู้เขา รู้เรา แล้ว ท่านจะแก้ทางการต่อสู้ได้เองอัตโนมัติเมื่อมาปรับใช้กับสกิลที่เรามี เอ่อ แต่ถ้าดูเรื่องสถานะของสกิลคู่ต่อสู้ อย่างลืม ดูหนังสือสวรรค์ของเขาพ่วงด้วย วิธีคำนวนหนังสือสวรรค์กะสกิลที่อัพ ผมค่อยบอกทีหลังแล้วกัน (ถ้าคนที่ไม่รู้นะ) เพราะผมเม้นยาวมากแล้ว ถ้าคัยไม่สนจัยจิงๆ เขาคงไม่อ่านของผม เอาเป็นว่า ผมเม้นแค่นี้นะครับ ไปล่ะครับ

[oMelnOo]

ป๊าดดดด

ก่าจาอ่านจบ

น้ำตาแทบไหล

เหนื่อย

อ่านละไม่เข้าใจอะค่ะ

5555 ยาวขนาดว้า